องค์ประกอบเค้าโครงงาน
ชื่อโครงงาน : กระดาษจากใบเตย
ผู้จัดทำโครงงาน
นางสาว จิรภา โต๊ะสำรับ เลขที่ 22
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4
อาจาร์ที่ปรึกษาโครงงาน
นาย ธนดล คำเสมอ
ระยะเวลาดำเนินงาน : 4 พ.ย - 30 พ.ย 56
บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ใบเตยหอมเป็นพืชสมุนไพร
ในอดีตนิยมนำใบเตยหอม
มาประกอบอาหารและทำขนมหวานใช้แต่งกลิ่นเวลาหุงข้าวเจ้าและข้าวเหนียว หรือนำไปแต่งกลิ่นและสีของขนม
จะเห็นได้ว่าเราใช้สมุนไพรเตยหอมมากมาย
ใบเตยมักจะขึ้นในที่ชื้นแฉะใกล้น้ำ
ใบจะงอกจากลำต้นเรียงเวียนแน่นรอบลำต้น มีสีเขียว
รูปเรียวยาวคล้ายหอกและมีกลิ่นหอมเย็น ไม่มีดอก
ขยายพันธุ์โดยใช้หน่อ ใบเตยมีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ ช่วยลดการกระหายน้ำเพราะเมื่อเรารับประทานน้ำใบเตยจะรู้สึกชื่นใจและชุ่มคอ
กระดาษสาเป็นกระดาษชนิดหนึ่ง ที่ทำมาจากต้นกระดาษสาซึ่งต้นปอสา เป็นพืชเส้นใยในตระกูลเดียวกับหม่อนและขนุนนิยมปลูกมากในภาคเหนือ ต่อมา ได้มีการพัฒนากระดาษสาทำเป็นลวดลายและมีสีต่างๆ อย่างหลากหลาย แล้วนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย เช่น ทำกล่องกระดาษ ที่คั่นหนังสือ กระดาษห่อของขวัญ ปกสมุดไดอารี่ ถุงกระดาษ ฯลฯ
ในปัจจุบันกระดาษสานอกจากจะมีราคาแพงและมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค คณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะนำใบเตยมาทำเป็นกระดาษสา เพราะใบเตยเป็นพืชที่มีเส้นใยสูง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาทำเป็นกระดาษสาเหมือนกับวัสดุธรรมชาติอื่น ๆ
กระดาษสาเป็นกระดาษชนิดหนึ่ง ที่ทำมาจากต้นกระดาษสาซึ่งต้นปอสา เป็นพืชเส้นใยในตระกูลเดียวกับหม่อนและขนุนนิยมปลูกมากในภาคเหนือ ต่อมา ได้มีการพัฒนากระดาษสาทำเป็นลวดลายและมีสีต่างๆ อย่างหลากหลาย แล้วนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย เช่น ทำกล่องกระดาษ ที่คั่นหนังสือ กระดาษห่อของขวัญ ปกสมุดไดอารี่ ถุงกระดาษ ฯลฯ
ในปัจจุบันกระดาษสานอกจากจะมีราคาแพงและมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค คณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะนำใบเตยมาทำเป็นกระดาษสา เพราะใบเตยเป็นพืชที่มีเส้นใยสูง จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาทำเป็นกระดาษสาเหมือนกับวัสดุธรรมชาติอื่น ๆ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อหาสูตรที่เหมาะสมสำหรับการทำกระดาษสาจากใบเตยหอมโดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์
กระดาษโรเนียว และกระดาษกล่องเป็นส่วนผสม
2. เพื่อเปรียบเทียบสีที่เหมาะสมการทำกระดาษสา
2. เพื่อเปรียบเทียบสีที่เหมาะสมการทำกระดาษสา
ขอบเขตของโครงงาน
ใบเตยสามารถนำมาทำเป็นกระดาษเหมือนกับต้นปอสาได้
บทที่
2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
หลักการและทฤษฎี
กระดาษสา มีมานาน 20 กว่าปีแล้วโดย นายเจริญ เหล่าปิ่นตา ได้สืบทอดการทำกระดาษสามาจากคุณทวด ซึ่งในสมัยก่อนนั้นไม่ได้ทำกันอย่างแพร่หลายเหมือนสมัยนี้ จะทำกันเฉพาะเมื่อต้องการเขียนยันต์ ทำไส้เทียนและทำตุงของเชียงใหม่เท่านั้น
ตั้งแต่นั้นมาก็ได้มีการพัฒนาการทำกระดาษสาจากที่เคยทำสีขาวก็คิดหาวิธีทำเป็นหลายๆสี
และมีลวดลายมากยิ่งขึ้น
ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจจากคนไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้ท่านมีกำลังใจที่จะผลิตงานศิลปะ กระดาษสามากยิ่งขึ้น แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่น สมุดโน้ต ถุงกระดาษ ดอกไม้ ฯลฯ และยังได้เผยแพร่กระทำกระดาษสาไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ และสอนวิธีการทำกระดาษสาให้เพื่อเป็น
การอนุรักษ์ศิลปะของไทยอีกด้วย ที่ยึดหลักการประกอบอาชีพในการทำกระดาษสา
สืบทอดจากบรรพบุรุษของบ้านต้นเปา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกระดาษสาดั่งเดิมของเชียงใหม่ โดยในอดีตการทำกระดาษสานั้นเพื่อนำไปใช้ในการผลิตร่มและพัด
โดยแหล่งผลิตร่มและพัดอยู่ที่บ้านบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังใช้ในการทำไส้เทียน ทำตุงและทำโคมลอย
ซึ่งกระดาษสายังไม่เป็นที่ต้องการของท้องตลาดมากนัก การทำกระดาษสาจึงอยู่เฉพาะครอบครัวของนายเจริญ เหล่าปิ่นตา และนางทองคำ เหล่าปิ่นตา เท่านั้น จนกระทั่งต่อมากระดาษสา
และผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาได้มีการส่งเสริมการอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อย่างจริงจังประมาณปี พ.ศ. 2537 – 2538 มีการจัดงานแสดงและจำหน่ายกระดาษสาและผลิตภัณฑ์ การจัดการประกวดกระดาษสา ตลอดทั้งการฝึกอาชีพการผลิตกระดาษสาและผลิตภัณฑ์ การบริการให้คำปรึกษาแนะนำพัฒนาเทคนิคการผลิต
เครื่องมือเครื่องจักรในการผลิตต่าง ๆ
ทำให้คนเริ่มรู้จักและสนใจกระดาษสากันมาก
และรู้จักบ้านต้นเปาว่าเป็นแหล่งผลิตกระดาษสาด้วยมือ
แบบดั่งเดิมของจังหวัดเชียงใหม่ กระดาษสาและผลิตภัณฑ์จากกระดาษสาจากบ้านต้นเปาได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดหลายประเภทและหลายครั้ง ชื่อเสียงของกระดาษสาบ้านต้นเปาเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น
ประกอบกับตลาดกระดาษสาและผลิตภัณฑ์กระดาษสาในเมืองไทยเริ่มขยายต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ บางคนมารับงานไปทำที่บ้านเป็นอาชีพเสริมให้กับครอบครัว นอกจากนั้นยังมีผู้ผ่านการฝึก การทำกระดาษสาและ ผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา จากบ้านอนุรักษ์กระดาษสาได้ไปประกอบอาชีพเป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมในครัวเรือนของตนเอง ถ้าหากไม่สามารถหาตลาดจำหน่ายได้เอง ก็จะนำผลิตภัณฑ์มาฝากจำหน่ายหรือขายให้ทางบ้านอนุรักษ์กระดาษ
บทที่ 3
วัสดุอุปกรณ์และการทดลอง
วิธีดำเนินการ
วิธีการทดลอง แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 การหาสูตรที่เหมาะสมในการทำกระดาษสาจากใบเตยหอม
ขั้นตอนที่ 2 การฟอกขาวเยื่อกระดาษ
ขั้นตอนที่ 3 การนำกระดาษสาที่ผลิตไปแปรรูปใช้ประโยชน์ขั้นตอนที่ 1 การหาสูตรที่เหมาะสมในการทำกระดาษสาจากใบเตยหอม
การทดลองแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ใบเตยหอม + กระดาษโรเนียว
กลุ่มที่ 2 ใบเตยหอม + กระดาษกล่อง
กลุ่มที่ 3 ใบเตยหอม + กระดาษหนังสือพิมพ์
กลุ่มที่ 4 กลุ่มควบคุมใบเตยหอมกลุ่มที่ 1 ใบเตยหอม 200 กรัม + กระดาษหนังสือพิมพ์ 50 กรัม
วิธีทำ
1. นำใบเตยหอมจำนวน 1,000 กรัม มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำใบเตยหอมมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร
2. นำใบเตยหอมที่หั่นแล้วมาปั่นให้ละเอียดจนเกิดใย ซึ่งใช้เวลาในการปั่นประมาณ 3 นาที
3. นำใบเตยหอมที่ปั่นแล้วมาผสมกับกระดาษโรเนียวที่เตรียมไว้ในอัตราส่วน
200 : 50 ( ใบเตย 200 กรัม กระดาษโรเนียว 50 กรัม ) จากนั้นก็นำไปปั่นต่อประมาณ 5 นาที
4. เมื่อปั่นเสร็จแล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปใส่ตระแกรงไนล่อนขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร ( ขนาดตระแกรงขึ้นอยู่กับกระดาษที่ต้องการ ) จากนั้นนำไปร่อนในอ่างน้ำเพื่อให้เยื่อลอยตัวและกระจายตัวออกจากกันอย่างสม่ำเสมอ
5. นำตะแกรงไนล่อนไปตากแดดประมาณ 1 วัน กระดาษสาจะแห้งติดกันเป็นแผ่นจึงลอกกระดาษสาออกจากตะแกรงไนล่อน
บันทึกผลการทดลอง
1. ด้านละเอียดและหยาบของเส้นใยและเนื้อเยื่อของกระดาษ
2. ความเหนียวของกระดาษสา บันทึกโดยชุดทดลองแรงดึงต้านทานโดยการใช้แรต้านทานกับกระดาษ โดยเพิ่มนำหนักถุงทรายทีละ 100 กรัม
3. การดูดซับโดยใช้น้ำมันพืชหยดลงบนกระดาษแล้ว ดูการกระจายเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางน้ำมันที่กระจายตัวบนกระดาษที่ซับน้ำมันไว้กลุ่มที่ 2 ใบเตย 200 กรัม + กระดาษกล่อง 50 กรัม
ทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองแบบเดียวกับกลุ่มที่ 1 แต่แตกต่างกันตรงที่ใช้กระดาษกล่องแทนกระดาษโรเนียว
ขั้นตอนที่ 1 การหาสูตรที่เหมาะสมในการทำกระดาษสาจากใบเตยหอม
ขั้นตอนที่ 2 การฟอกขาวเยื่อกระดาษ
ขั้นตอนที่ 3 การนำกระดาษสาที่ผลิตไปแปรรูปใช้ประโยชน์ขั้นตอนที่ 1 การหาสูตรที่เหมาะสมในการทำกระดาษสาจากใบเตยหอม
การทดลองแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ใบเตยหอม + กระดาษโรเนียว
กลุ่มที่ 2 ใบเตยหอม + กระดาษกล่อง
กลุ่มที่ 3 ใบเตยหอม + กระดาษหนังสือพิมพ์
กลุ่มที่ 4 กลุ่มควบคุมใบเตยหอมกลุ่มที่ 1 ใบเตยหอม 200 กรัม + กระดาษหนังสือพิมพ์ 50 กรัม
วิธีทำ
1. นำใบเตยหอมจำนวน 1,000 กรัม มาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นนำใบเตยหอมมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร
2. นำใบเตยหอมที่หั่นแล้วมาปั่นให้ละเอียดจนเกิดใย ซึ่งใช้เวลาในการปั่นประมาณ 3 นาที
3. นำใบเตยหอมที่ปั่นแล้วมาผสมกับกระดาษโรเนียวที่เตรียมไว้ในอัตราส่วน
200 : 50 ( ใบเตย 200 กรัม กระดาษโรเนียว 50 กรัม ) จากนั้นก็นำไปปั่นต่อประมาณ 5 นาที
4. เมื่อปั่นเสร็จแล้วนำส่วนผสมที่ได้ไปใส่ตระแกรงไนล่อนขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 45 เซนติเมตร ( ขนาดตระแกรงขึ้นอยู่กับกระดาษที่ต้องการ ) จากนั้นนำไปร่อนในอ่างน้ำเพื่อให้เยื่อลอยตัวและกระจายตัวออกจากกันอย่างสม่ำเสมอ
5. นำตะแกรงไนล่อนไปตากแดดประมาณ 1 วัน กระดาษสาจะแห้งติดกันเป็นแผ่นจึงลอกกระดาษสาออกจากตะแกรงไนล่อน
บันทึกผลการทดลอง
1. ด้านละเอียดและหยาบของเส้นใยและเนื้อเยื่อของกระดาษ
2. ความเหนียวของกระดาษสา บันทึกโดยชุดทดลองแรงดึงต้านทานโดยการใช้แรต้านทานกับกระดาษ โดยเพิ่มนำหนักถุงทรายทีละ 100 กรัม
3. การดูดซับโดยใช้น้ำมันพืชหยดลงบนกระดาษแล้ว ดูการกระจายเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางน้ำมันที่กระจายตัวบนกระดาษที่ซับน้ำมันไว้กลุ่มที่ 2 ใบเตย 200 กรัม + กระดาษกล่อง 50 กรัม
ทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองแบบเดียวกับกลุ่มที่ 1 แต่แตกต่างกันตรงที่ใช้กระดาษกล่องแทนกระดาษโรเนียว
กลุ่มที่ 3 ใบเตย 200 กรัม
+ กระดาษหนังสือพิมพ์ 50 กรัม
ทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองแบบเดียวกับกลุ่มที่ 1 แต่แตกต่างกันตรงที่ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์แทนกระดาษโรเนียว
ทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองแบบเดียวกับกลุ่มที่ 1 แต่แตกต่างกันตรงที่ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์แทนกระดาษโรเนียว
กลุ่มที่ 4 กลุ่มควบคุมใบเตย 200 กรัม
ทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองแบบเดียวกับกลุ่มที่ 1 แต่แตกต่างกันตรงที่ใช้ใบเตยหอมอย่างเดียว
ทำการทดลองและบันทึกผลการทดลองแบบเดียวกับกลุ่มที่ 1 แต่แตกต่างกันตรงที่ใช้ใบเตยหอมอย่างเดียว
ขั้นตอนที่ 2 ทดลองชนิดของสีที่ติดได้ดีกับกระดาษสาที่ผลิตจากใบเตยหอม
การทดลองแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 สีโปสเตอร์
กลุ่มที่ 2 สีผสมอาหาร
กลุ่มที่ 3 สีย้อมผ้า
การทดลองแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 สีโปสเตอร์
กลุ่มที่ 2 สีผสมอาหาร
กลุ่มที่ 3 สีย้อมผ้า
วิธีการทดลอง
ใช้กลุ่มการทดลองที่ดีที่สุดขั้นตอนที่ 2
มาทดลองย้อมสีชนิดต่างๆ
การย้อมสี
1. นำเยื่อกระดาษใส่ลงไปในนำสีที่เตรียมไว้
2. การเตรียมนำสีเตรียมได้โดยใช้นำสี 15 กรัม ต้มในน้ำ 2 ลิตร
3. นำเยื่อกระดาษแต่ละกลุ่มมาแช่น้ำสีทิ้งไว้ 15 นาที แล้วนำมาเตรียมไว้เพื่อนำไปใส่ตะแกรงไนล่อนแล้วร่อนในน้ำสี
4. จากกนั้นก็นำไปตากแดดไว้ประมาณ 1 วัน
การย้อมสี
1. นำเยื่อกระดาษใส่ลงไปในนำสีที่เตรียมไว้
2. การเตรียมนำสีเตรียมได้โดยใช้นำสี 15 กรัม ต้มในน้ำ 2 ลิตร
3. นำเยื่อกระดาษแต่ละกลุ่มมาแช่น้ำสีทิ้งไว้ 15 นาที แล้วนำมาเตรียมไว้เพื่อนำไปใส่ตะแกรงไนล่อนแล้วร่อนในน้ำสี
4. จากกนั้นก็นำไปตากแดดไว้ประมาณ 1 วัน
บันทึกผลการทดลอง
บันทึกลักษณะสีที่ติด การกระจายของสีบนเยื่อกระดาษที่ผลิต
บันทึกลักษณะสีที่ติด การกระจายของสีบนเยื่อกระดาษที่ผลิต
ขั้นตอนที่ 4 การนำกระดาษสาที่ผลิตไปแปรรูปใช้ประโยชน์
การนำกระดาษที่ผลิตไปแปรรูปใช้ประโยชน์ เช่น นำไปทำกล่องกระดาษทิชชู จัดบอร์ด ทำดอกไม้ การ์ดอวยพรต่างๆ ที่ขั้นหนังสือ ถุงกระดาษ
การนำกระดาษที่ผลิตไปแปรรูปใช้ประโยชน์ เช่น นำไปทำกล่องกระดาษทิชชู จัดบอร์ด ทำดอกไม้ การ์ดอวยพรต่างๆ ที่ขั้นหนังสือ ถุงกระดาษ
บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์และการทดลอง
ผลการศึกษา
ตอนที่
1 การหาสูตรที่เหมาะสมการทำกระดาษสาจากการทดลองคณะผู้จัดทำได้ทำการทดลองหาสูตรที่เหมาะสมกับการทำกระดาษสา ได้ใช้กระดาษโรเนียว กระดาษกล่องและกระดาษหนังสือพิมพ์ โดยมีใบเตยหอมเป็นตัวควบคุม ผลการทดลองปรากฏ ดังตาราง 1ตาราง 1 แสดงผลการทดลองการผสมใบเตยหอมกับกระดาษชนิดต่าง ๆ
กลุ่ม
|
ประเภท
|
ปริมาณใบเตยหอม
( กรัม ) |
ปริมาณกระดาษ
( กรัม ) |
ผลการทดลอง
|
1
|
กระดาษโรเนียว
|
200
|
50
|
ดี
|
2
|
กระดาษกล่อง
|
200
|
50
|
ปรับปรุง
|
3
|
กระดาษหนังสือพิมพ์
|
200
|
50
|
ดีมาก
|
4
|
ใบเตยหอม ( ตัวควบคุม )
|
200
|
-
|
พอใช้
|
จากตาราง 1 พบว่า กระดาษสาที่ทำจากใบเตยหอมกับกระดาษหนังสือพิมพ์
อัตราส่วน 200
: 50 กรัม มีคุณภาพดีที่สุด รองลงมา คือ
ใบเตยหอมกับกระดาษโรเนียว และใบเตยหอมผสมกระดาษกล่อง ตามลำดับโดยใช้ใบเตยหอมเป็นตัวควบคุม ( control
)
เกณฑ์การทดลองการผสมใบเตยหอมกับกระดาษชนิดต่าง ๆ
ดีมาก หมายถึง เยื่อกระดาษมีเนื้อละเอียด ผิวเรียบสม่ำเสมอมีการจับตัว และประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
ดี หมายถึง เยื่อกระดาษส่วนใหญ่มีเนื้อละเอียด ผิวเรียบสม่ำเสมอมีการจับตัวและประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
พอใช้ หมายถึง เยื่อกระดาษบางส่วนมีเนื้อละเอียด ผิวเรียบสม่ำเสมอมีการจับตัว และประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
ปรับปรุง หมายถึง เยื่อกระดาษเนื้อไม่ละเอียด ผิวไม่เรียบ ไม่มีการจับตัว และประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
ดีมาก หมายถึง เยื่อกระดาษมีเนื้อละเอียด ผิวเรียบสม่ำเสมอมีการจับตัว และประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
ดี หมายถึง เยื่อกระดาษส่วนใหญ่มีเนื้อละเอียด ผิวเรียบสม่ำเสมอมีการจับตัวและประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
พอใช้ หมายถึง เยื่อกระดาษบางส่วนมีเนื้อละเอียด ผิวเรียบสม่ำเสมอมีการจับตัว และประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
ปรับปรุง หมายถึง เยื่อกระดาษเนื้อไม่ละเอียด ผิวไม่เรียบ ไม่มีการจับตัว และประสานยึดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน
ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบสีที่เหมาะสมการทำกระดาษสา
จากการทดลองคณะผู้จัดทำได้ทำการทดลองเพื่อเปรียบเทียบสีที่เหมาะสมการทำกระดาษสา ผลการทดลองปรากฏ ดังตาราง
2
ชนิดของสี
|
ปริมาณสีของกระดาษ
แต่ละประเภท ( กรัม ) |
ผลการทดลอง
|
สีผสมอาหาร
|
15
|
พอใช้
|
สีย้อมผ้า
|
15
|
ดีมาก
|
สีโปสเตอร์
|
15
|
ดี
|
จากตาราง
2 พบว่า สีที่ใช้ผสมในการทำกระดาษสากระดาษสาที่มีคุณภาพดีที่สุด ได้แก่ สีย้อมผ้า
รองลงมาคือ สีโปสเตอร์และสีผสมอาหาร ตามลำดับ
เกณฑ์การเปรียบเทียบสีที่เหมาะสมการทำกระดาษสา
ดีมาก หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน มากกว่า ร้อยละ 95
ดี หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ร้อยละ 85
พอใช้ หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ร้อยละ 65
ปรับปรุง หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน น้อยกว่า ร้อยละ 50
ดีมาก หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน มากกว่า ร้อยละ 95
ดี หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ร้อยละ 85
พอใช้ หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ร้อยละ 65
ปรับปรุง หมายถึง เนื้อสีกับเยื่อกระดาษผสมเป็นเนื้อเดียวกัน น้อยกว่า ร้อยละ 50
บทที่ 5
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ
1. กระดาษสาที่ผลิตจากใบเตยหอมกับกระดาษหนังสือพิมพ์ อัตราส่วน 200 :
50 กรัม เป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมที่สุดในการทำเป็นกระดาษสา รองลงมาคือ ใบเตยหอมกับกระดาษโรเนียว และใบเตยหอมกับกระดาษกล่อง ตามลำดับโดยใช้ใบเตยหอมเป็นตัวควบคุม ( control )
2. สีที่เหมาะสมการทำกระดาษสาที่มีคุณภาพดีที่สุด ได้แก่ สีย้อมผ้า รองลงมาคือ สีโปสเตอร์และสีผสมอาหาร ตามลำดับ โดยใช้ปริมาณสีของกระดาษแต่ละประเภทที่เท่ากัน จำนวน 15 กรัม
ข้อเสนอแนะ
1. การหาสูตรที่เหมาะสมควรจะหาวัสดุที่มีความหลากหลายและแตกต่างกันหลาย
ๆ ชนิด
2. ควรนำกระดาษสาที่ผลิตได้ ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ประโยชน์ให้มากกว่านี้
อ้างอิง
บรรณานุกรม
bangkokhealth.com. (ม.ป.ป.). ใบเตยหอม. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2553, จาก http://www.bangkokhealth.com/nutrition_htdoc/nutrition_health_detail.asp?Number=9226
osc.ac.th. (24 มิถุนายน 2549). เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกระดาษ. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2553, จาก http://www.osc.ac.th/forum/index.php?action=printpage;topic=636.0
นิตยา คำอินต๊ะมูล และคณะ. (ม.ป.ป.). ที่มาของกระดาษสา. สืบค้นเมื่อ
20 กุมภาพันธ์ 2553,
จาก http://www.dsc.ac.th/inweb/student_job/sa_paper/pawat.htm
มูลนิธิวิกิมีเดีย. (8 กุมภาพันธ์ 2552.). กระดาษสา. สืบค้นเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2553,จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8
YouTube - videoodl.cc
ตอบลบYouTube - 유튜브 음원 추출 YouTube. youtube mp3 YouTube. Watch videos youtube to mp3 related to YouTube. No Ads. Watch Now. View About. More. Videos. Add to favorites. Advertisement. YouTube. YouTube.
pg slot เครดิตฟรีเล่นง่ายเล่น1บาทแตก1พันฟรี
ตอบลบpg slot เว็บตรงแตกง่าย
I'm here to introduce a new direct web slot site in 2022เกมสล็อตพีจี เว็บตรงเปิดใหม่
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบIt's a great article, thanks for the information. เว็บแทงบอลสด, เว็บบอลสด
ตอบลบCheckinsexygirl แทงบอลออนไลน์ถูกกฎหมาย
ตอบลบ